พาณิชย์ เร่งประสานสหกรณ์รับซื้อข้าวเหนียวเชียงรายต่อเนื่อง​ คุมเข้มรับซื้อห้ามกดราคา ระดมตรวจเครื่องชั่ง–วัดความชื้น พบเอาเปรียบเกษตรกรดำเนินคดีเด็ดขาด

 พาณิชย์ เร่งประสานสหกรณ์รับซื้อข้าวเหนียวเชียงรายต่อเนื่อง​  คุมเข้มรับซื้อห้ามกดราคา ระดมตรวจเครื่องชั่ง–วัดความชื้น พบเอาเปรียบเกษตรกรดำเนินคดีเด็ดขาด

DIT เร่งประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย คลี่คลายสถานการณ์รับซื้อข้าวเหนียวอำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย นำสหกรณ์การเกษตรและโรงสีในพื้นที่เข้ารับซื้ออย่างต่อเนื่อง พร้อมกำกับดูแลมาตรฐานการชั่ง–วัดความชื้น และการแสดงราคา เพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ย้ำ “ข้าวของเกษตรกรต้องขายได้ ไม่ถูกทอดทิ้ง

นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า “กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ ภายหลังจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวในพื้นที่อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย สะท้อนข้อกังวลเกี่ยวกับการจำหน่ายผลผลิต โดยได้ประสานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายเพื่อเร่งประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ตัวแทนเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรพญาเม็งราย ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรับซื้อข้าวเหนียวในพื้นที่ โดยขณะนี้สหกรณ์ได้ดำเนินการรับซื้อข้าวเหนียวจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการหยุดหรือปฏิเสธการรับซื้อแต่อย่างใด ช่วยให้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายได้อย่างมั่นใจ ไม่เกิดความกังวลเรื่องขาดช่องทางระบายผลผลิต 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก DIT และจังหวัดมีแผนจัดนัดข้าวเปลือก เพื่อเป็นช่องทางเลือกสำหรับเกษตรกรในการนำข้าวมาจำหน่าย ที่ช่วยให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองในการจำหน่ายข้าวมากขึ้น โดยกำหนดจัดตลาดนัด จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 วันที่ 11 – 13 พฤศจิกายน 2568 ณ สหกรณ์การเกษตรป่าแดด จำกัด อำเภอป่าแดด และครั้งที่ 2 วันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน 2568 ณ สหกรณ์การเกษตรแม่สาย จำกัด อำเภอแม่สาย ในส่วนข้อเรียกร้องของเกษตรกรเรื่อง พันธุ์ข้าว กข 22 ที่ไม่ได้คุณภาพ เนื่องจากการกลายพันธุ์ ทำให้ราคาไม่ดีเท่าที่ควร หน่วยงานในพื้นที่เตรียมลงพื้นที่ติดตามพิสูจน์พันธุ์เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งทางกรมการค้าภายในจะเร่งประสานกรมการข้าวเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”

นางสาวญาณี กล่าวต่ออีกว่า “สำหรับสถานการณ์ข้าวเหนียวจังหวัดเชียงรายในขณะนี้ (วันที่ 19 ตุลาคม 2568) ผลผลิตออกสู่ตลาดคิดเป็น 24% หรือ 202,854 ตัน ของผลผลิตทั้งหมดที่ปริมาณ 845,225 ตัน แบ่งเป็น ข้าวเหนียว 539,977 ตัน ร้อยละ 62 ข้าวเจ้า 192,543 ตัน ร้อยละ 22 ข้าวหอมมะลิ 117,540 ตัน ร้อยละ 14 และข้าวหอมปทุม 13,893 ตัน ร้อยละ 2 ในส่วนของราคารับซื้อ ข้าวเหนียวความชื้น 25 – 30% อยู่ที่กิโลกรัมละ 6.70 – 7.30 บาท โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ได้ประสานกับประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัด และเครือข่ายโรงสีในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเตรียมเข้าร่วมรับซื้อเพิ่มในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกมากขึ้น เพื่อเพิ่มการแข่งขันด้านราคา ไม่ให้เกษตรกรถูกกดราคา และสร้างเสถียรภาพด้านการตลาด

 “DIT ยืนยันว่าได้ติดตามสถานการณ์การรับซื้อข้าวเหนียวอย่างใกล้ชิด โดยขอให้พี่น้องเกษตรกรเชื่อมั่นว่าการรับซื้อเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยกรมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้น และตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจน ตามประกาศ กกร. เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด

หากเกษตรกรพบการกดราคา ใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือสงสัยว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่ สายด่วน DIT 1569 ซึ่งกรมฯ จะเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ และหากพบการกระทำผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยการฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือแสดงราคาไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีจงใจกดราคา เอาเปรียบเกษตรกร หรือกระทำการฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อาจมีโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ“ นางสาวญาณี กล่าวทิ้งท้าย


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sweeney Todd ละครเวทีมิวสิคัลในตำนาน และนี่เป็นครั้งแรกของประเทศไทยใน School Edition ที่ทางโรงเรียนได้ซื้อลิขสิทธิ์แท้ถูกต้อง จาก Musical Theatre International (MTI) ละครเขย่าขวัญ ฆาตกรรม ทำให้เหมาะกับผู้แสดง โดย นักเรียน Pre - College YAMP โรงเรียนเตรียมอุดมดนตรี

อธิบดีกรมวิทย์ฯ บริการ กระทรวง อว. “หมอรุ่งเรือง” ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่ง “ประธานมูลนิธิสุชาติ เจตนเสน“ มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณสุขและงานระบาดวิทยาภาคสนามเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาสาธารณสุขไทย

รัฐมนตรี “ศุภมาส” นำวิทยาศาสตร์ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ให้กรมวิทย์ฯ บริการร่วมมือทุกภาคส่วนทำให้ทุกพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารทั่วประเทศ “มีน้ำดื่มสะอาดปลอดภัย”