*กระทรวงวัฒนธรรมระดมทุกภาคส่วน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ยะลา – สงขลา - สตูล* *เดินหน้า “ครัวจิตอาสา” ผลิตอาหารรวมกว่า 17,800 กล่อง พร้อมสนับสนุนศูนย์พักพิงและถุงยังชีพ**ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้*
*กระทรวงวัฒนธรรมระดมทุกภาคส่วน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ยะลา – สงขลา - สตูล* *เดินหน้า “ครัวจิตอาสา” ผลิตอาหารรวมกว่า 17,800 กล่อง พร้อมสนับสนุนศูนย์พักพิงและถุงยังชีพ**ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้*
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลา และคณะสงฆ์จังหวัดยะลา ร่วมกันเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดยะลา เพื่อเป็นจุดประสานงาน จัดหาความช่วยเหลือ และสนับสนุนการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้จัดกิจกรรม “ครัวจิตอาสา ณ วัดนิโรธสังฆราม เพื่อผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดยะลา” ระหว่างวันที่ 27–28 พฤศจิกายน 2568 เพื่อแจกจ่ายอาหารให้ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 1,000 กล่อง โดยนำไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบและแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังในหลายหมู่บ้าน ส่งผลให้พนะภิกษุสงฆ์ เเละประชาชนจำนวนมากไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ตามปกติ
ในขณะเดียวกัน ยังได้ขยายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันที่ผ่านมา โดยศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยของกระทรวงวัฒนธรรม ณ วัดแช่มอุทิศ จังหวัดสงขลา
ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตอาหารกล่องจัดส่งให้กับประชาชนและหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายนเป็นต้นมา โดยกระจายสู่พื้นที่อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสิงหนคร และศูนย์พักพิงของกระทรวงวัฒนธรรม ได้แก่ วัดหัวป้อมใน และหอสมุดกาญจนาภิเษกสงขลา ซึ่งยังคงรองรับประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเนื่องจากยังไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ตามปกติ และในบางแห่งน้ำยังไม่ลด รวมถึงหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ ได้แก่ ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 9 มณฑลทหารบกที่ 42 หน่วยกู้ชีพ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ส่งผลให้ยอดรวมการแจกจ่ายอาหารของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกระทรวงวัฒนธรรม ณ วัดแช่มอุทิศ ตั้งแต่วันที่ 23–27 พฤศจิกายน มีจำนวนประมาณ 16,800 กล่อง
พร้อมกันนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนายังได้นำผ้าไตรจีวร จำนวน 85 ชุด และผ้าอาบน้ำฝน จำนวน 161 ผืน มอบให้วัดโคกเปี้ยว ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเป็นชุมชนคุณธรรมพลังบวร และเป็นศูนย์พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) ของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนการดูแลพระภิกษุสงฆ์ในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติ
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 กรมการศาสนาได้จัดรถขนส่งสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์ทำความสะอาด ผ้าห่ม เป็นต้น จำนวน 3 คัน ลงพื้นที่กระจายความช่วยเหลือไปยังศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย จำนวน 9 ศูนย์ ได้แก่ 1. วัดแช่มอุทิศ 2. วัดโพธิ์ปฐมาวาส 3. วัดไทรงาม 4. วัดภูเขาหลง
5. วัดศีรษะคิรี 6. หอสมุดแห่งชาติกาญจนาภิเษก 7. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ 8. วัดหัวป้อมใน 9. วัดโคกพะยอมสุการาม โดยรถคันที่ 1 เดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ วัดแช่มอุทิศ จังหวัดสงขลา พร้อมมอบสิ่งของให้คณะสงฆ์และสามเณร ณ วัดโคกเปี้ยว ตำบลเกาะยอ ตลอดจนมอบอาหารฮาลาลให้แก่มัสยิดในจังหวัดสงขลา เพื่อให้พี่น้องมุสลิมที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงอาหารที่ถูกต้องตามหลักศาสนาได้อย่างเพียงพอ รถคันที่ 2 มอบให้ วัดนิโรธสังฆาราม อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอเมือง และรถคันที่ 3 มอบให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูล เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอละงู
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนายังได้รับการสนับสนุนชุดเครื่องนอนจำนวน 200 ชุดจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อจัดสรรให้ศูนย์พักพิงวัดหัวป้อมใน และศูนย์พักพิงหอสมุดกาญจนาภิเษก จังหวัดสงขลา เพื่อให้ประชาชนที่ต้องย้ายออกจากบ้านเรือนชั่วคราวได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม มีที่พักที่ปลอดภัย สะอาด และสามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอในช่วงภัยพิบัติ โดยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม ที่พักพิง และอุปกรณ์ยังชีพต่าง ๆ โดยความร่วมมือจากคณะสงฆ์ องค์กรเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐ ทหาร ตำรวจ อาสากู้ชีพ และภาคประชาสังคม ถือเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ กระทรวงวัฒนธรรมพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการตั้งศูนย์ช่วยเหลือและครัวจิตอาสาในพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบ พร้อมประสานภาคีเครือข่ายทุกระดับเพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ทันท่วงที และลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตให้น้อยที่สุดในสถานการณ์อุทกภัยที่ยังทวีความรุนแรงในหลายพื้นที่ของภาคใต้ในขณะนี้/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น